เนื้อปูพาสเจอร์ไรส์ อร่อยสู้ เนื้อปูสด ไม่ได้จริงหรือ

บางครั้งอาหารสดก็ไม่ได้อร่อยมากไปกว่าอาหารกระป๋อง เพราะยังมีปัจจัยเกี่ยวข้องหลายต่อหลายอย่างที่จะมีผลต่อรสชาติของอาหารเหล่านั้น อย่างเช่น เนื้อปูสด หากใครได้เคยลิ้มรสปูสดๆ จากทะเล ชนิดที่ว่านั่งชิมกันริมหาด ก็ยังการันตีไม่ได้เลยว่าจะได้ทานเนื้อปูที่อร่อยจริงๆ ความสดใหม่ที่ได้นั้นคงมีแน่ แต่ความสะอาดและคุณภาพของปูไม่สามารถกะเกณฑ์ได้เลย เราลองมาดูกันดีกว่าว่าอะไรเป็นตัวแปรที่มีผลต่อความอร่อยของเนื้อปูสดกันบ้าง

เนื้อปูสด

• ระยะเวลาในการเก็บรักษา โดยปกติเนื้อปูสดสามารถเก็บในตู้เย็นได้แค่ไม่กี่วัน หากไม่ได้นำออกมาปรุงอาหารแบบวันต่อวันก็จะเริ่มมีกลิ่นและมีรสชาติของเนื้อปูที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ นี่เป็นเหตุผลอันดับต้นๆ ที่ทำให้การลิ้มรสปูสดที่ร้านอาหารไม่ได้อร่อยอย่างที่คิด เพราะถ้าไม่ได้ทำเมนูที่ใช้ปูเลย วัตถุดิบที่เก็บไว้ก็ต้องพยายามยืดอายุต่อไปให้ได้นานที่สุดเพื่อควบคุมต้นทุน เช่นเดียวกันกับการซื้อปูสดจากตลาดมาทำทานเองที่บ้าน เราก็ไม่มีทางแน่ใจได้ว่าปูเหล่านั้นเป็นวัตถุดิบที่เก็บมานานเท่าไรแล้ว
• ความสะอาด ต่อให้เนื้อปูมีความสดใหม่มากแค่ไหน แต่ถ้าไม่ได้รับการทำความสะอาดที่ดีพอ ทั้งกลิ่นและรสก็จะไม่น่าลิ้มลองเท่าไร อาจมีทราย เม็ดดินหรือพืชน้ำขนาดเล็กเกาะติดอยู่ และสิ่งสำคัญก็คือไม่ใช่ทุกคนที่รู้ว่าปูจะต้องทำความสะอาดอย่างไร แม้แต่ร้านอาหารเองก็ตามที
• คุณภาพที่ไม่คงที่ ในหน้ามรสุมที่หาจับปูได้ยากรวมไปถึงการเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดซึ่งส่งผลให้ปูขาดตลาด ปูที่เคยมีเนื้อแน่นก็อาจไม่แน่นเหมือนเดิม จ่ายเงินด้วยราคาเท่าเดิมแต่กลับได้ปูตัวเล็กกว่าที่เคย เนื้อปูสดที่เคยอร่อยก็เลยไม่อร่อยเท่าที่ควร แถมยังรู้สึกไม่คุ้มค่าอีกด้วย

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของปัจจัยที่มีผลกระทบต่อความอร่อยของเนื้อปูสดเท่านั้น ยังคงมีอีกหลายอย่างที่เราไม่สามารถควบคุมดูแลได้ ความเชื่อที่ว่า “เนื้อปูสดเท่านั้นถึงจะอร่อย” จึงไม่จริงเสมอไป ต่างกับเนื้อปูพาสเจอร์ไรส์ที่ไม่ว่าเมื่อไรก็อร่อยอยู่เสมอ

ก่อนที่เนื้อปูพาสเจอร์ไรส์จะมาถึงมือผู้บริโภค จะต้องผ่านกระบวนการผลิตตามมาตรฐานที่กำหนดไว้หลายขั้นตอน เริ่มตั้งแต่การคัดสรรเนื้อปูคุณภาพดี แกะเนื้อปูออกแล้วใช้นวัตกรรมการผลิตเข้ามาช่วยในการรักษาความสดของเนื้อปูให้ได้มากที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นเนื้อปูจะได้รับการพาสเจอร์ไรส์เพื่อฆ่าเชื้อโรค เป็นการเพิ่มความปลอดภัยในการทานขึ้นไปอีกขั้นในขณะที่ความอร่อยยังคงมีเท่าเดิม

รสชาติที่เสียไปในเนื้อปูพาสเจอร์ไรส์?

หลายคนเข้าใจผิดไปว่าการนำเนื้อปูสดไปผ่านการพาสเจอร์ไรส์จะทำให้รสชาติที่มีเสน่ห์นั้นขาดหายไป แต่ความจริงแล้วมันเป็นกระบวนการที่ไม่ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงอะไรภายในเนื้อปูเลย เพียงแค่กำจัดแบคทีเรียบางส่วนเพื่อยืดอายุการเก็บรักษาเท่านั้น ไม่เหมือนกับการใช้ความร้อนสูงที่นิยมใช้ในการผลิตอาหารกระป๋องประเภทเนื้อสัตว์ทั่วไป นั่นจะทำให้โปรตีนในเนื้อเปลี่ยนสภาพไปจากเดิม รสชาติ สัมผัส และกลิ่นที่ได้ก็จะต่างไปจากของสดแน่นอน แต่สำหรับเนื้อปูพาสเจอร์ไรส์นั้นไม่ใช่ เมนูไหนที่ปรุงด้วยเนื้อปูสดแล้วอร่อย ก็สามารถปรุงด้วยเนื้อปูพาสเจอร์ไรส์แล้วอร่อยได้ไม่แพ้กัน

จุดเด่นของเนื้อปูพาสเจอร์ไรส์ที่อาจหาไม่ได้ในเนื้อปูสด

นอกจากจะหาซื้อง่าย เก็บไว้ได้นาน และไม่ต้องกังวลกับราคาที่ขึ้นๆ ลงๆ ตามสภาพแวดล้อมที่เราจัดการอะไรไม่ได้แล้ว เนื้อปูพาสเจอร์ไรส์ก็ยังปลอดภัยในเรื่องของสารปนเปื้อนต่างๆ ที่เคยทำให้หลายคนเกิดอาการแพ้อย่างหนักจนถึงขั้นเสียชีวิตมาแล้ว หยิบใช้ก็ง่ายแม้จะเป็นมือใหม่ในด้านการทำอาหาร ที่สำคัญยังได้เนื้อปูคุณภาพเท่าเทียมกันเสมอ ทั้งเรื่องขนาดและรสชาติ ต่อเนื่องไปถึงเมนูอาหารที่ใช้เนื้อปูเป็นวัตถุดิบหลักในการปรุงก็จะได้มาตรฐานเดียวกันทุกครั้งด้วย สำหรับร้านอาหารปูพาสเจอร์ไรส์จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เนื้อปูสด หลายเท่านัก

ด้วยประสบการณ์และความเชื่อบางอย่าง เราจึงมักให้คุณค่าของอาหารกระป๋องหรืออาหารที่ผ่านกระบวนการเก็บรักษาน้อยกว่าอาหารสดเสมอ แต่ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ก็คงพอจะทำให้มองเห็นภาพรวมแล้วว่า “เนื้อปูสด” ก็ไม่ได้อร่อยกว่า “เนื้อปูพาสเจอร์ไรส์” แถมยังมีความเสี่ยงมากมายที่เราอาจหลีกเลี่ยงได้ยากอีกด้วย